หากเรามองจาก ท้องฟ้า เราจะเห็น สิ่งที่เคลื่อนไหว ภายใต้ ของความคิดเรา ถ้าเรามองขึ้นไปจากใจเรา เราจะเห็น ทุกชีวิต กำลังดิ้นรน เพื่อ แสวงหา อาหาร เพื่อ หล่อเลี้ยง ชีวิตของตนเอง และ สิ่งที่ตนรัก และเป็นที่รัก ของตนเอง และแล้ว ทุกชีวิต ก็ พบว่า ความกระหายใคร่ ได้ ใคร่มี ใคร่เป็น หรือ ความทะยานอยาก นี่เอง ที่เป็นสาเหตุ ให้มนุษย์ ต้องเดินทางอยู่ ตลอดชีวิต ลองหยุดเดินทางด้วยยานพาหนะ แล้วหันมาเดินทาง ด้วยจิตวิญญาณ แล้วการ เดินทางไกล จะใกล้เข้าทุกขณะจิต หายใจเข้า ตามรู้ หายใจออก ตามรู้
วันอาทิตย์ที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2560
คำทำนายจากพระพุทธเจ้าเวลาที่เรามีสติตามดูไปเรื่อยนะ เห็นสภาวะทั้งหลายเกิดดับไปเรื่อย เห็นจิตเป็นกลางบ้าง ไม่เป็นกลางบ้าง ยินดีบ้าง ยินดีร้ายบ้างนะ ทั้งเป็นกลางทั้งยินดี ทั้งยินร้าย ก็มีแต่เกิดดับอีก ในที่สุดปัญญามันเกิด จะเห็นว่าทุกสิ่งเกิดแล้วดับ พอปัญญาเกิด เห็นว่าทุกสิ่งเกิดแล้วดับเนี่ย จิตจะเป็นกลางด้วยปัญญา ความทุกข์มาก็ไม่ทุรนทุรายเพราะรู้ว่าไม่นานก็ดับ ความสุขมาก็ไม่ติดใจรักใคร่พัวพัน เพราะรู้ว่าอยู่ไม่นานก็ดับ เนี่ยอย่างนี้ เป็นกลางอย่างนี้ใช้ได้เลย พวกเราที่ภาวนานะ วันนึงเราจะต้องมาสู่จุดนี้ให้ได้ คือความเป็นกลางด้วยปัญญา เพราะถัดจากการเป็นกลางด้วยปัญญาแล้วเนี่ย ถัดนั้นขึ้นไปนะ อริยมรรคจะเกิดละ จุดสุดท้ายที่พวกเราจะภาวนาได้นะ ก็คือ ภาวนาจนกระทั่งจิตเป็นกลางด้วยปัญญา เป็นกลางต่อทุกสิ่งทุกอย่างเลย ความสุขความทุกข์ กุศลอกุศล เกิดแล้วดับๆ ดูไปวันนึงจิตมีปัญญาเห็นว่าทุกอย่างเกิดแล้วดับ จิตจะเป็นกลาง จิตเป็นกลางตัวนี้เรียกว่าจิตมีสังขารุเบกขาญาณ ญาณแปลว่าปัญญา สังขารุเบกขา ก็คือ มีอุเบกขาต่อความปรุงแต่งทั้งดีทั้งชั่ว ทั้งสุขทั้งทุกข์ จิตที่เดินมาถึงสังขารุเบกขาญาณเนี่ยจะมีรอยแยกสองทาง มีทางแยก ทางที่หนึ่งนะ พวกเห็นภัยในสังสารวัฏ พวกนี้จะพลิกไปสู่การเกิดมรรคผล พวกที่สองนะ เกิดความกรุณาสงสารสัตว์โลก จิตจะพลิกไปสู่ความเป็นพระโพธิสัตว์ มีพลิกไปได้สองทาง แล้วพวกที่เป็นโพธิสัตว์ ที่เข้ามาถึงตรงนี้ได้นะ ถ้าไปเจอพระพุทธเจ้าเนี่ย อาจจะได้รับพยากรณ์ว่าอีก 16 อสงไขยแสนมหากัปป์จะได้เป็นพระพุทธเจ้าพระองค์หนึ่ง อีกนาน โลกแตกหลายรอบ
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น