วันเสาร์ที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2559

“ดูกรโมฆราช ท่านจงเป็นผู้มีสติทุกเมื่อ ตามพิจารณาเห็นโลกโดยความว่างเปล่า ถอนการตามหมายว่าเป็นตัวเป็นตนเสีย” ให้ท่านทำ ๓ อย่างนี้ อันแรกมีสติทุกเมื่อ อันที่สองตามเห็นโลก โดยความเป็นของว่างเปล่า อันที่สาม ถอนความสำคัญมั่นหมายความคิดเห็นว่าเป็นตัวเป็นตนเสีย เป็น ๓ อัน สิ่งที่หลวงพ่อมาเล่าให้พวกเราฟังทุกวันนี้ ก็อย่างนี้แหละ มีสติอยู่เรื่อยๆนะ มีสติบ่อยๆ จะบอกว่าสติทุกเมื่อเดี๋ยวก็ไปนั่งเพ่งอีก เลยบอกว่าสติเนืองๆ แต่อย่าเนืองนานนักก็แล้วกันนะ ให้มันถี่ๆ แล้วตามเห็นอะไร ตามเห็นโลก ตามเห็นโลกโดยความเป็นอะไร โดยความเป็นไตรลักษณ์ ทีนี้สำหรับท่านโมฆราชท่านมีปัญญามาก พระพุทธเจ้าท่านก็เลยบอก “ตามเห็นโลกโดยความว่างเปล่า” เห็นอนัตตา คำว่าเห็นโลกคืออะไร เห็นโลกคือเห็นรูปกับนาม เห็นกายกับใจนี้ คำว่าโลกไม่ใช่สิ่งอื่นนะ โลกก็คือ กายยาววา หนาคืบ กว้างศอก ที่มีใจครอง ก็คือรูปธรรมนามธรรมนี้แหละที่เรียกว่าโลก ท่านให้เห็นโลกโดยความว่างเปล่าไม่ใช่ตัวใช่ตน คอยถอนความเห็นผิด ความรู้สึกผิดๆ ว่าเป็นตัวเป็นตนซะ ท่านไม่สอนบอกว่า จงไปดูความว่างเปล่า ท่านบอกให้มีสติทุกเมื่อแล้วก็ตามเห็นโลก สิ่งที่เราเห็นคือเห็นโลก เห็นรูปเห็นนาม เห็นกายเห็นใจ ท่านโมฆราชฉลาด มีปัญญามาก ก็เห็นโลกเป็นอนัตตา เห็นโลกว่างเปล่าก่อนที่ร่างกายนี้จะเรี่ยรายประดุจกำแกลบ กิเลสซ่อนอยู่ในจิตใจเรา สาวกบารม...

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น