หากเรามองจาก ท้องฟ้า เราจะเห็น สิ่งที่เคลื่อนไหว ภายใต้ ของความคิดเรา ถ้าเรามองขึ้นไปจากใจเรา เราจะเห็น ทุกชีวิต กำลังดิ้นรน เพื่อ แสวงหา อาหาร เพื่อ หล่อเลี้ยง ชีวิตของตนเอง และ สิ่งที่ตนรัก และเป็นที่รัก ของตนเอง และแล้ว ทุกชีวิต ก็ พบว่า ความกระหายใคร่ ได้ ใคร่มี ใคร่เป็น หรือ ความทะยานอยาก นี่เอง ที่เป็นสาเหตุ ให้มนุษย์ ต้องเดินทางอยู่ ตลอดชีวิต ลองหยุดเดินทางด้วยยานพาหนะ แล้วหันมาเดินทาง ด้วยจิตวิญญาณ แล้วการ เดินทางไกล จะใกล้เข้าทุกขณะจิต หายใจเข้า ตามรู้ หายใจออก ตามรู้
วันพฤหัสบดีที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2560
ตัวธาตุรู้นั้นแหละเป็นตัวไปเห็นพระนิพพาน ตรงนี้เรียกว่า โคตรภูญาณเราคอยรู้สึกนะ คอยรู้สึกอยู่ปัจจุบันนี้แหล่ะ รู้สภาวะไปนะ แล้ววันนึงจะได้ลิ้มรสของมรรคผลนิพพาน เดินทางไกลในสังสารวัฏเนี่ยต้องรู้เป้าหมายของชีวิตนะ เป้าหมายของชีวิตเราเพื่อถอดถอนตัวเองออกจากกองทุกข์ให้ได้ มันเรื่องอะไรเราจะต้องมีชีวิตที่ทุกข์ตลอดกาล ทุกข์แล้วทุกข์อีก ตายแล้วตายอีก ก็ทุกข์แล้วทุกข์อีกอยู่อย่างนั้นแหล่ะ คนไม่เชื่อตายแล้วตายอีกก็ดูปัจจุบันไป มันก็ทุกข์อยู่ทั้งวันทั้งคืนอยู่แล้ว แล้วเฝ้ารู้เฝ้าดูไปนะ วันนึงใจถอดถอนความยึดถือออกไปแล้วก็ มันพ้นทุกข์ต่อหน้าต่อตาเลย เราจะมีชีวิตที่สมบูรณ์ เรียกว่าเราพบสิ่งซึ่งมีคุณค่าที่สุดในสังสารวัฏแล้วคือ ค้นพบธรรมะ นั้นเราเดินทางไกลในสังสารวัฏเนี่ยก็เพื่อแสวงหาธรรมะนั่นเอง ส่วนคนซึ่งเค้าไม่มีสติปัญญาเค้าไม่สามารถแสวงหาธรรมะได้ เค้าจะแสวงหาอะไร เค้าแสวงหากาม กามคือความสุขความเพลิดเพลินไปทางตาหูจมูกลิ้นกาย กายกระทบสัมผัสต่างๆ เนี่ยคนทั้งหลายก็เที่ยวแสวงหาความสุขกันแบบนั้น อีกพวกนึงก็แสวงหากามที่ปราณีตขึ้นไปอีก คือแสวงหาความสุขทางใจ เข้าสมาธิทำฌานทำอะไรไปนะก็ได้รับความสุขทางใจ เป็นราคะที่ละเอียดขึ้นไป ส่วนผู้มีสติมีปัญญาเนี่ยภาวนาจนเราเข้าใจธรรมรู้แจ้งอริยสัจ พอรู้แจ้งอริยสัจนะพ้นทุกข์ตั้งแต่ปัจจุบัน ตั้งแต่ขณะจิตที่รู้แจ้งอริยสัจนั่นเลย พ้นทุกข์เลย ตั้งแต่นั้น ถ้ารู้แจ้งแล้วตั้งแต่นั้นเนี่ย ไม่มีอะไรปรุงแต่งจิตอีกแล้ว จิตไม่มีการทำงานแล้ว จิตทำหน้าที่ของจิตไปเรียกว่าเป็นกริยาแต่ไม่มีการทำงานด้วยความจงใจใดๆแล้ว ทำของเค้าเองโดยอัตโนมัติ ใจก็โปร่งโล่งสบาย งั้นหลวงพ่อขอให้คำแนะนำพวกเรานะ รีบภาวนาแล้วเป็นพระอรหันต์ไวๆเวลาที่เหลือเราจะได้มีชีวิตที่มีความสุขนะ คุ้มค่าที่สุดเลย อย่าไปมัวแต่เอร็ดอร่อยกับของกิ๊กๆก๊อกๆนะ ความสุขทั้งหลายในโลกที่ทำให้เราติดอกติดใจนั้นมันเป็นความสุขเล็กน้อย เหมือนความสุขของเด็กเล่นกรวดเล่นทรายเล่นดินเล่นโคลนอยู่ข้างถนนข้างคลองเท่านั้นเอง ความสุขในธรรมะนะมันปราณีต มันสะอาดหมดจด ดีกว่ากันเยอะ นั้นอย่าเสียดายความสุขเล็กๆน้อยๆ เรียนรู้ธรรมะไป แล้วเราจะได้ความสุขที่ยิ่งใหญ่ และความสุขที่เป็นอมตะด้วย ความสุขในโลกไม่อมตะหรอก อยู่ได้ชั่วครั้งชั่วคราวเดี๋ยวก็หายไปแล้ว หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช แสดงธรรมที่สำนักสงฆ์สวนสันติธรรม บ้านโค้งดารา ศรีราชา ชลบุรี
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น