เรื่องผู้สละโลกนี้ เป็นประวัติของพระสาวกบางท่าน
ซึ่งได้สละความสุขอย่างโลกๆ มาแสวงหาความสุขทางธรรม
และท่านก็ได้พบความสุขนั้นสมใจหมายอันที่จริง
ท่านเหล่านี้มีพระสารีบุตร เป็นต้น
พิจารณาตามประวัติแล้ว มีโอกาสเป็นอันมาก
ในการที่จะเสวยความสุขทางโลกอย่างที่ชาวโลกมุ่งมอ
ง ปักใจใฝ่ฝัน และแสวงหา อย่างชนิดที่เรียกว่า
“ทุ่มชีวิตลงไปทั้งชีวิต” แต่ท่านเหล่านั้นกลับสละทิ้ง
อย่างไม่ใยดีไปมีชีวิตอยู่อย่างง่ายๆ ไม่มีความวุ่นวายกังวล
บางท่านเป็นถึงพระราชาครองแคว้น
เช่น พระมหากัปปินะ เมื่อได้ตัดสินพระทัยสละโลก
มาอยู่ภายใต้ร่มธงแห่งธรรมแล้ว ทรงเปล่งอุทาน
อยู่เสมอๆว่า “สุขจริงหนอๆ” ทั้งนี้เพราะความสุขทางธรรม
- สุขอันเกิดจากความสงัดจากกาม สงัดจากอกุศลนั้น
เป็นความสุขที่ประณีตชุ่มเย็นในดวงจิต
เหนือความสุขทางโลกียารมณ์อันเจือด้วยความกระหาย
เร่าร้อนกระวนกระวายและทุกข์
หากเรามองจาก ท้องฟ้า เราจะเห็น สิ่งที่เคลื่อนไหว ภายใต้ ของความคิดเรา ถ้าเรามองขึ้นไปจากใจเรา เราจะเห็น ทุกชีวิต กำลังดิ้นรน เพื่อ แสวงหา อาหาร เพื่อ หล่อเลี้ยง ชีวิตของตนเอง และ สิ่งที่ตนรัก และเป็นที่รัก ของตนเอง และแล้ว ทุกชีวิต ก็ พบว่า ความกระหายใคร่ ได้ ใคร่มี ใคร่เป็น หรือ ความทะยานอยาก นี่เอง ที่เป็นสาเหตุ ให้มนุษย์ ต้องเดินทางอยู่ ตลอดชีวิต ลองหยุดเดินทางด้วยยานพาหนะ แล้วหันมาเดินทาง ด้วยจิตวิญญาณ แล้วการ เดินทางไกล จะใกล้เข้าทุกขณะจิต หายใจเข้า ตามรู้ หายใจออก ตามรู้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น