หากเรามองจาก ท้องฟ้า เราจะเห็น สิ่งที่เคลื่อนไหว ภายใต้ ของความคิดเรา ถ้าเรามองขึ้นไปจากใจเรา เราจะเห็น ทุกชีวิต กำลังดิ้นรน เพื่อ แสวงหา อาหาร เพื่อ หล่อเลี้ยง ชีวิตของตนเอง และ สิ่งที่ตนรัก และเป็นที่รัก ของตนเอง และแล้ว ทุกชีวิต ก็ พบว่า ความกระหายใคร่ ได้ ใคร่มี ใคร่เป็น หรือ ความทะยานอยาก นี่เอง ที่เป็นสาเหตุ ให้มนุษย์ ต้องเดินทางอยู่ ตลอดชีวิต ลองหยุดเดินทางด้วยยานพาหนะ แล้วหันมาเดินทาง ด้วยจิตวิญญาณ แล้วการ เดินทางไกล จะใกล้เข้าทุกขณะจิต หายใจเข้า ตามรู้ หายใจออก ตามรู้
วันพฤหัสบดีที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2560
ถอยไม่ได้นะ ต้องสู้นะ สู้ด้วยสติปัญญาสู้กับกิเลสถอยไม่ได้ แต่สู้ต้องมีสติปัญญา เหมือนเราไต่เขาต้องมีสติปัญญา ไม่ใช่ไต่โง่ๆ ขึ้นไปนะ ตอนนี้เหนื่อยแล้วต้องหยุดพัก หาชะง่อนหินพักก่อน มีเรี่ยวมีแรงค่อยไต่ใหม่ เราภาวนาไปแล้วช่วงนี้เหน็ดเหนื่อย แล้วก็ให้ทำสมถะ ทำความสงบ สงบแล้วจิตใจมีเรี่ยวแรงแล้วมาเจริญปัญญารู้กายรู้ใจอีก กระดึ๊บๆๆ ไปเรื่อยไม่ท้อถอยนะ จะยากลำบากแค่ไหนก็ถอยไม่ได้นะ เป็นโอกาสดีมากๆของพวกเราแล้วที่ได้เจอศาสนาพุทธนะ มีโอกาสแล้วต้องทำ ทิ้งโอกาสผ่านไปแล้วก็คือหมดโอกาส ….หนทางยังมีอยู่ ผู้เดินทางไม่ขาดสาย ให้ลงมือเดินทางเสียตั้งแต่วันนี้ ก่อนที่เส้นทางนี้ หรือรอยเท้าของท่านเหล่านี้จะหายไป พอถึงวันที่เส้นทางนี้หายไปนะ พวกเราจะระหกระเหินอีกนานเลยนะ เวลาเราสะสมสติ สมาธิ ปัญญานะ ทำกันนาน ทำกันแรมเดือนแรมปี….. วาบเดียวขาดสะบั้นเลย…. เหมือนอย่างเราตัดต้นไม้ซักต้นหนึ่งนะ เราฟันแล้วฟันอีกๆๆ ฟันไปเรื่อยๆนะ นาทีสุดท้ายที่ล้มน่ะ ฟันฉับเดียวขาดเลย ล้มไปแล้ว เวลาที่มรรคผลจะเกิด เกิดชั่วขณะจิต สั้นๆ ชั่วขณะเดียว งั้นการปฏิบัติธรรมหนึ่งขณะจิตนี่เรื่องสำคัญมากนะ ปัจจุบันก็คือขณะจิตต่อหน้านั่นเอง เราเรียนรู้กายเรียนรู้ใจลงปัจจุบันไปเรื่อยนะ ไม่หลงไปในอดีต ไม่หลงไปอนาคต รู้ลงปัจจุบันไป……. ถึงวันหนึ่งจิตเขารู้แจ้ง เขาวางปั๊บ ก็เข้าถึงธรรมปั๊บเลย ถ้าอ่อนแอท้อถอยเมื่อไหร่นะ ถอยไกลนะ ถอยไกลไม่ใช่ถอยทีหนึ่งก้าวสองก้าวนะ มันถอยกันเป็นชาติๆนะ ถ้าในคัมภีร์(พระไตรปิฎก) เขาจะว่าถอยครั้งละ 500 ชาติ บางทีถอยนานมากเลย ... ไม่ใช่ง่ายที่จะขึ้นไป ทุลักทุเลนะ ต้องเข้มแข็งนะ สู้กับกิเลส ถอยไม่ได้ แต่ต้องสู้ ... มันจะดิ้นหาแต่ความสุขและดิ้นหนีทุกข์ไปเรื่อยๆ ถ้าอ่อนแอท้อถอยเมื่อไหร่นะ ถอยไกลนะ ถอยไกลไม่ใช่ถอยทีหนึ่งก้าวสองก้าวนะ มันถอยกันเป็นชาติๆนะ ถ้าในคัมภีร์(พระไตรปิฎก) เขาจะว่าถอยครั้งละ 500 ชาติ บางทีถอนานมากเลย อย่างพระอานนท์ สมัยก่อนจะเป็นพระอานนท์ ไปทำบุญมา แล้วขอให้มีรูปงาม ขอให้หล่อ อีกชาติหนึ่งเกิดมาหล่อเฟี้ยวเลย คราวนี้ก็ไปทำผิดศีล ประพฤติผิดในกาม ท่านบอกท่านตายจากชาตินั้นท่านไปเวียนอยู่ในนรกเนิ่นนาน นี่มีคว่มสุขชั่วครั้งชั่วคราวแล้วไปเวียนอยู่ในนรกเนิ่นนาน พ้นจากนรกขึ้นมานะ ท่านมาเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉาน เกิดเป็นวัว บุญที่ทำความดีไว้นะ และก็อธิฐานไว้ก็ส่งผลฝห้เกิดเป็นวัวรูปหล่อ (คนฟังหัวเราะ) เป็นวัวสุดหล่อนะ ถ้าเข้าประกวดทีไรต้องชนะ ทีนี้เวลาเจ้าของเทียมเกวียนจะมีวัวสาวๆมาวิ่งตาม เจ้าของรำคาญเลยจับตอนเสียอีก นี่ท่านบอกว่าท่านถูกตอนอยู่ 500ชาติ หมายถึงถูกตอนอย่างนั้นซ้ำแล้วซ้ำอีก เสร็จแล้วมาเกิดเป็นคนนะ เป็นคนที่ไม่สมประกอบ ผิดปกติทางเพศ ท่านบอกเป็นอยู่อย่างนี้อีกนาน กว่าจะสมประกอบคืนมาได้ ดูสิ่ทำผิดชั่ววูบเท่านั้นนะ เวียนอยู่นับเวลาไม่ถูกเลย เราอย่าประมาทน เราเดินอยู่บนขอบเหวแท้ๆเลย เหมือนเราไต่ลวดอยู่บนขอบเหวนะ ไม่ใช่เดินอยู่บนพื้นเรียบๆนะ เหมือนไต่เชือกอะไรอยู่ พลาดพลั้งไม่ได้นะ ต้องสู้นะ มีคนหนึ่งรู้จักกัน ก็เคยพลาดพลั้ง เคยบวชเป็นพระแล้วก็ถือศีลธรรมดานี่แหล่ะ แต่ว่าไม่ได้ทำอะไร ไม่ได้ทำประโยชน์อะไร เพราะว่าสมัยโน้น ไม่มีการเรียนปริยัติหรือปฎิบัติอะไรเลย บวชกันตามประเพณีไปอย่างนั้นอย่างนั้น วันๆ อยู่ไปเรื่อยๆ ตายจากชาตินั้นไปเกิดเป็นวัว ไปใช้หนี้ชาวบ้านเค้านะ แต่ว่าไม่ได้ทำกรรมชั่วอะไรนะ พอเป็นลูกวัวชาวบ้านก็เอามาปล่อยวัด กลับมาอยู่วัดเก่าที่เคยเป็นพระนี่แหล่ะ ประมาทไม่ได้เลยระสังสารวัฎเนี่ย พลาดแวบเดียวไปยาวมากเลย เหมือนเราไต่ภูเขา เราพลัดตกเหวลงมานะ ไม่ใช่ง่ายที่จะขึ้นไป ทุลักทุเลนะ ต้องเข้มแข็งนะ สู้กับกิเลส ถอยไม่ได้ แต่ต้องสู้ ต้องมีสติปัญญา ไม่ใช่ไต่โง่ๆขึ้นไปนะ ตอนนี้เหนื่อยแล้วหยุดพัก หาชะง่อนหินพักก่อน มีเรี่ยวมีแรงค่อไต่ใหม่ เราภาวนาไปช่วงนี้เหน็ดเหนื่อยแล้วก็ให้ทำสมถะ ทำความสงบ สงบแล้วจิตใจมีเรี่ยวมีแรงแล้วมาเจริญปัญญารู้กายรู้ใจอีกกระดึ๊บๆๆ ไปเรื่อยๆไม่ท้อถอยนะ จะยากลำบากแค่ไหนถอยไม่ได้นะ เป็นโอกาสดีมากๆของพวกเราแล้วที่ได้เจอศาสนาพุทธนะ งานในโลกนี้ไม่เคยเสร็จหรอก ถ้าคิดรอให้งานเสร็จแล้วจะภาวนา งั้นชาตินี้ก็จะไม่ได้ภาวนา ต้องภาวนาไปเลย ทำงานไปภาวนาไปนี่แหล่ะ ใช้ชีวิตปกตินี่แหล่ะภาวนาไปเลย กรรมฐานที่หลวงพ่อสอนให้ คือ การดูจิตดูใจนั้น เป็นกรรมฐานที่เหมาะกับคนในเมือง คนที่ต้องทำงานกับความคิดมากๆ ทำกรรมฐานอย่างอื่นไม่ได้หรอก
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น